ครูดีเด่น ประจำปี 2552

ครูดีเด่น  ประจำปี 2552

ความภูิมิใจ

ชนะเลิศการแข่งขันการร้องเพลงไทยสากล ช่วงชั้นที่ 2
ตัวแทนระดับเขตพื้นที่การศึกษา
แข่งขันระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
งานแข่งขันศิลปหัตถกรรมทางวิชาการ  ประจำปีการศึกษา 2553
จังหวัดอุดรธานี



ทัศนศึกษา

กับ  รองฯ ภาณิชา  อินทร์ช้าง
      ศน.มงคล  ฤทธิรณ
      และคณะครู
      สังกัด สพป.บุรีรัมย์  เขต 4

ขิง "ยาอายุวัฒนะ"

ขิง   เป็นพืชล้มลุก มีเหง้าใต้ดิน เปลือกนอกสีน้ำตาลแกมเหลือง เนื้อในสีนวลมีกลิ่นหอมเฉพาะ แทงหน่อหรือลำต้นเทียมขึ้นเป็นกอประกอบด้วยกาบหรือโคนใบหุ้มซ้อนกัน ใบ เป็นชนิดใบเดี่ยว ออกเรียงสลับกันเป็นสองแถวออกสีขาวออกรวมกันเป็นช่อรูปเห็ดหรือกระบองโบราณ แทงขึ้นมาจากเหง้า ชูก้านสูงขึ้นมาทุกๆ ดอกที่กาบสีเขียวปนแดงรูปโค้งๆ ห่อรองรับ


ประโยชน์ของขิงนั้นมีมากมายกว่านั้นแต่จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย!!!
·     เหง้า : รสหวานเผ็ดร้อน ขับลม แก้ท้องอืด จุกเสียด แน่นเฟ้อ คลื่นไส้อาเจียน
แก้หอบไอ ขับเสมหะ แก้บิด เจริญอากาศธาตุ สารสำคัญในน้ำมันหอมระเหยจะออกฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้ ใช้เหง้าแก่ทุบหรือบดเป็นผง ชงน้ำดื่ม แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน แก้จุกเสียด แน่นเฟ้อ เหง้าสดตำคั้นเอาน้ำผสมกับน้ำมะนาว เติมเกลือเล็กน้อย จิบแก้ไอ ขับเสมหะ
·     ต้น : รสเผ็ดร้อน ขับลมให้ผายเรอ แก้จุกเสียด แก้ท้องร่วง         
·     ใบ : รสเผ็ดร้อน บำรุงกำเดา แก้ฟกช้ำ แก้นิ่ว แก้ขัดปัสสาวะ แก้โรคตา ฆ่าพยาธิ
·     ดอก : รสเผ็ดร้อน แก้โรคประสาทซึ่งทำให้ใจขุ่นมัว ช่วยย่อยอาหาร แก้ขัดปัสสาวะ
·     ราก : รสหวานเผ็ดร้อนขม แก้แน่น เจริญอาหาร แก้ลม แก้เสมหะ แก้บิด
·     ผล : รสหวานเผ็ด บำรุงน้ำนม แก้ไข้ แก้คอแห้ง เจ็บคอ แก้ตาฟาง เป็นยาอายุวัฒนะ
·     แก่น : ฝนทำยาแก้คัน
***เพียงแค่นำเหง้าขิงขนาดขนาดเท่าหัวแม่มือมาอังไฟให้อุ่นจัด แล้วนำไปบดให้ละเอียด   จากนั้นก็นำมาทาให้ทั่วหนังศีรษะ น้ำมันในขิงจะช่วยให้เส้นผมแข็งแรงและยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการงอกใหม่ของ เส้นผมอีกด้วย***